บริษัท Food Passion

บริษัท Food Passion

คุณเรืองชาย สุพรรณพงศ์ (คุณด๋อน) Chief Operating Officer (COO) ได้มาแชร์ประสบการณ์ในช่วงวิกฤต Covid-19 ที่ผ่านมา และการนำ Hato Hub Platform มาใช้กับ Food Passion เพื่อการสร้างความเติบโตในการขายอาหาร Delivery และต่อยอดประสบการณ์ที่ดีในการสั่งอาหารบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับลูกค้า

Food Passion หรือที่เรารู้จักคุ้นชื่อกันในนามบาร์บีคิวพลาซ่าที่อยู่คู่กับคนไทยมามากกว่า 35 ปีแล้ว โดยปัจจุบันบริษัท Food Passion มีแบรนด์ในเครืออยู่ทั้งหมด 5 แบรนด์ดัง ได้แก่ Bar B Q Plaza, Charna, Red Sun, GON EXPRESS, และ GON ทัก โดยมีกิจการทั้งหมด 4 ประเทศ คือประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกัมพูชา แล้วกำลังจะเปิดประเทศลาวในสิ้นปี 2022 นี้ รวมสาขาทั้งหมดที่เปิดอยู่ใน South East Asia ประมาณ 220 สาขา

บริษัท Food Passion
Bar B Q Plaza

คุณเรืองชาย สุพรรณพงศ์ (คุณด๋อน) Chief Operating Officer (COO) ได้มาแชร์ประสบการณ์ในช่วงวิกฤต Covid-19 ที่ผ่านมา และการนำ Hato Hub Platform มาใช้กับ Food Passion เพื่อการสร้างความเติบโตในการขายอาหาร Delivery และต่อยอดประสบการณ์ที่ดีในการสั่งอาหารบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับลูกค้า 

คุณเรืองชาย สุพรรณพงศ์ (คุณด๋อน) Chief Operating Officer (COO)

Covid-19 ส่งผลยังไงกับ Food Passion บ้าง?

คุณด๋อนเล่าว่า โควิดอยู่กับเรามาตั้งแต่ประมาณเดือนเมษายน ปี 2020 โดยในปีนั้นมีการล็อคดาวน์ หรือ Semi Lock Down ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดจำนวนคนเข้าร้าน จำนวนที่นั่งหรืองดให้บริการช่องทาง Dine in (นั่งกินที่ร้าน) รวมแล้วในปี 2020 เราถูกล็อคดาวน์ อย่างน้อยประมาณ 4 เดือน ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลไทยเลือกใช้วิธี Zero Call Covid หรือพยายามควบคุมโควิดให้หมดไปด้วยการลิมิตทุกอย่าง ก็ถือว่าปีนั้นรัฐบาลทำได้สำเร็จในช่วงไตรมาสที่ 4  

ถ้าทุกคนจำได้ในปีเดียวกันรัฐบาลได้กระตุ้นเศรษฐกิจด้วย โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในไตรมาสที่ 4 โดยธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเปิดดำเนินการกว่า 80% เมื่อถึงปี 2021 เดือนมีนาคม เริ่มมีการระบาดโควิดระลอก 2 และต่อเนื่องไปถึงระลอก 3 และระลอก 4 รวมทั้งสิ้นปี 2021 มีการจำกัดต่าง ๆ หรือ Lock Down รวมกว่า 5 เดือนครึ่ง ซึ่ง Food Passion เป็นธุรกิจที่ให้บริการอาหารในรูปแบบ Dine in (นั่งกินที่ร้าน) กว่า 99% และ 1% คือ รูปแบบ Take Home (ซื้อกลับบ้าน) และ Delivery ซึ่งในรูปแบบ Delivery ของเราพึ่งจะเริ่มต้น  

Food Passion เพิ่งเปิดตลาด Delivery ในปี 2020 และเปิด ในช่องทางหลักๆ คือ Grab และ LINE Man โดยขายเฉพาะอาหารที่เรียกว่า Ready to Eat คืออาหารข้าวหน้าปรุงสำเร็จ ยังไม่เริ่มขายในชุดที่เป็น DIY และวัตถุดิบสด จำพวกหมู เนื้อต่าง ๆ

จาก Dine in สู่ Delivery ของตัวเอง

คุณด๋อนได้เล่าต่ออีกว่า สาเหตุว่าทำไมเราถึงมาเริ่มใช้ Delivery ต้องบอกว่า Food Passion เป็นบริษัทที่ขยับเรื่อง Delivery ค่อนข้างช้า สาเหตุหลักเลยคือ เราให้ความสำคัญเรื่องประสบการณ์การทานอาหารของลูกค้ามากๆ และเมื่อเห็นเทรนด์ที่กำลังมาก อย่าง Delivery ก็ค่อยๆ พัฒนา จนโควิดระลอกที่ 1 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เรียกว่าเลวร้ายที่สุด ในช่วงที่ล็อกดาวน์หรือ Semi lock down เรามียอดขาย 0 บาท อยู่ 1 วัน แล้วก็ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ เป็น 5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ จนประมาณ 4 เดือนเราเร่งยอดได้ไปจนถึงประมาณ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์  

ต้องบอกว่า 4 – 5 เดือนนั้น เป็นบทเรียนครั้งสำคัญและสอนให้เราเข้าใจใหม่เรื่องหนึ่งเลยคือ Risk Management เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจ ซึ่งเมื่อก่อนเราเข้าใจว่า Risk Management นั้นคือเรามีสาขาอยู่ทุกจังหวัด มีอยู่ 4 ประเทศ และมีหลายแบรนด์ มันจะกระจายความเสี่ยงพอที่จะทำให้เรามีเสถียรภาพ แต่เราเข้าใจใหม่อีกทีว่า Risk Management ในแง่ของ Channel สำคัญมาก 4 ประเทศของเราทั้งหมด 240 สาขา อยู่ในห้าง 100% ขาย Dine in (นั่งกินที่ร้าน) เป็นหลัก แปลว่าวันนั้นเราต้องขยับตัวเรื่องนี้อย่างเต็มสูบ เพื่อจะนำยอดขายกลับเข้ามา ดังนั้นช่องทาง Delivery เป็นช่องทางที่น่าจะมีความสะดวกกับลูกค้ามากที่สุดในเชิงพฤติกรรมของ New Normal ดังนั้นเราต้องขยับ 2 เรื่องใหญ่ คือ

  1. เราต้อง Delivery เมนู DIY ให้ได้ อันนี้ก็เป็นในเชิง Food Safety, Packaging ต้องดีไซน์อย่างรวดเร็ว
  2. เราต้องหาช่องทาง Delivery ของตัวเอง ถามว่าทำไมต้องมีช่องทาง Delivery ของตัวเอง มัน Make sense อย่างไร ต้องบอกว่า Logic เรื่องนี้มาจาก Cost Structure เนื่องจากการคิดค่าบริการมันเป็น Percentage บนยอดขาย ดังนั้นแปลว่าถ้า Ticket Average ยิ่งสูง เราจะยิ่งเสียค่าบริการเยอะ มันอาจจะเหมาะกับ Ticket Average ที่ต่ำ ดังนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เราต้องขยับตัวมาสร้าง Own Channel หรือ ช่องทาง Delivery ของเราเอง

เหตุผลที่ Food Passion ต้องการมี Delivery ของตัวเอง

นอกจากเรื่อง Cost structure แล้วคุณด๋อนยังเล่าอีกว่าเรื่อง Data ก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับ Food Passion เพราะเราขายผ่านช่องทาง Aggregator เรามี Data ที่จำกัดมากๆ เราจะรู้แค่ยอดขายในสาขานั้นๆ ซึ่งเราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าหน้าตาลูกค้าเราเป็นอย่างไร เขาอยู่จุดไหน ทำให้เราบางทีการทำ Store network ในการช่องทาง Delivery เหมือนเราปิดตาทำ ถามว่าทำไม Data ถึงสำคัญสำหรับ Food Passion ก็เพราะว่า Food Passion มีระบบบัตรสมาชิกยาวนานมากว่า 25 ปีแล้ว ดังนั้นเราคุ้นเคยกับการวิเคราะห์ Data ในเชิงพฤติกรรมแบบระบุตัวตน ค่อนข้างเคยชินว่าเวลาเราจะทำอะไรสักอย่างเราต้องมาจัด Data ว่าลูกค้าชอบอะไร ลูกค้าอยู่ที่ไหน หน้าตาลูกค้าเป็นอย่างไร เพศ อายุมีความเกี่ยวข้องไหม ดังนั้น Aggregator ไม่สามารถตอบเราได้ในเรื่องนี้ เลยเป็นที่มาเลยว่า ถ้าเราจะทำ Own Platform จะต้องผูกบัตรสมาชิก และจะเป็นเงื่อนไขแรกๆ ของพวกเราเลยว่าต้องผูกบัตรสมาชิกให้ได้ ดังนั้นเหตุผลหลักว่าทำไมต้องเป็น Own Platform คือ 

  1. Cost structure ที่ถูกบีบบังคับ

  2. เรื่อง Data

ทำไมถึงเลือก Hato Hub ทั้งๆ ที่ Food Passion เป็นบริษัทใหญ่ที่อาจจะจ้าง Developer เขียนระบบใหม่หมดก็ย่อมได้

คุณด๋อนได้เล่าต่ออีกว่า Food passion เป็นบริษัทใหญ่ที่จ้างใครทำก็ได้ ถามว่าเคยจ้างทำมั้ย? เคยจ้างทำ App แล้ว ซึ่งเราได้เรียนรู้มาหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากเลย ก็คือตอนนั้นเราจ้างทำ App ที่เกี่ยวกับบัตรสมาชิก โดยที่เราเข้าใจว่าลูกค้าเรียกร้องไม่อยากพกบัตร เราก็เลยคิดว่าทำ App สิ ถ้าเกิดคนที่ไม่อยากพกบัตรก็โหลด App มันดูเป็น Logic ที่ถูกต้อง เรามีสมาชิกอยู่ประมาณ 1 ล้านคน เบ็ดเสร็จตอนทำเสียค่าใช้จ่ายในการพัฒนา แล้วก็ Launch ปรากฏว่ามีคนโหลด App ประมาณ 10,000 คนจาก 1 ล้านคน คิดเป็น 1% เท่านั้น แล้วโปรโมทอย่างไรก็ไม่โหลดเพิ่ม  

วันนั้นเราก็สงสัย เราก็เลยไป Empathize ลูกค้าใหม่ ปรากฏว่าเราเจอปัจจัยหนึ่งว่าการโหลด 1 App มาไว้ในกระเป๋าตังค์ลูกค้า เขามีต้นทุนนะ เรางงมากเลยว่าต้นทุนอะไร ก็คือต้นทุนในการเก็บ App เปลืองหน่วยความจำมือถือ เพราะว่าความถี่ในการทานที่ร้านของคุณมันไม่เยอะพอ 1 เดือนกินครั้ง หรือ 2 เดือนครั้งไม่เยอะพอ ลูกค้าคิดแล้วไม่คุ้มในการพกสิ่งนี้ไว้ในโทรศัพท์ เพราะเราไม่ใช่ร้านกาแฟ เราไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อที่คนควักกันวันเว้นวัน ดังนั้น App เราจึงเข้าใจใหม่ว่าไม่ใช่คำตอบ  

เราต้องบอกว่าก่อนโควิด เรามีทำกลยุทธ์หนึ่งอันคือ ย้ายบัตรสมาชิกมาอยู่บน LINE อยู่แล้ว เราทำก่อนหน้าโควิดมาประมาณ 1 ปี มีการย้ายมาอยู่บน LINE ถ้าจำได้คือปลายปี 2018 เรามีโปรโมชั่นใหญ่ที่เป็นล่าไข่ ครั้งแรกที่ใช้บัตรสมาชิกผ่าน LINE ก็มาจากการ Empathize เรื่องนี้แหละว่าลูกค้าไม่อยากโหลด App แล้วลูกค้าอยากให้อยู่บนไหน ตอนนั้นหลายธนาคารใช้ LINE ในช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า มีทั้ง App และ LINE แต่เขาใช้จุดประสงค์ไม่เหมือนกัน App จะใช้อะไรที่เป็นท่ายาก ส่วน LINE จะใช้อะไรที่เป็น Notification หรือเป็น Take status อะไรบางอย่างง่ายๆ เช่นคะแนนสะสมบัตรเครดิต ฉันใช้อะไรไปเท่าไหร่ อย่างนี้ง่ายๆ  

ดังนั้นเรามาเทียบเคียงแล้ว คน adopt ธนาคารดี nature ที่เป็น basic คือพวก transaction เปิดดูข้อมูลตัวเอง อะไรที่ง่ายๆ เราก็เลยโอเคแล้วไป Empathize ลูกค้า ปรากฏว่าลูกค้าโอเคเลย ถ้าอยู่บน LINE เราก็เลยย้ายบัตรสมาชิกทั้งหมดมาอยู่บน LINE ประมาณ 1 ปีกว่าๆ ก่อนโควิด ผลลัพธ์คือ Success มาก ตอนนั้นลูกค้า Convert ทันที มีคนใช้งานบน LINE จำได้ว่าก่อนโควิด ประมาณ 9 แสนคน เกือบ 1 ล้านแล้ว ดังนั้นเรามีลูกค้าอยู่กลุ่มหนึ่งที่ Block rate ต่ำมาก และอยู่บน LINE อยู่แล้ว ต้องบอกว่าเรามีพื้นฐานนั้น  

ดังนั้นฟีเจอร์ที่เราจะทำ Own platform เราสรุปได้เลยว่าไม่ใช่ App แน่นอน มันจะต้องเป็นอะไรบางอย่างที่อยู่บน LINE Channel สิ่งที่เราต้องคุยกันต่อก็คือ ทำอย่างไรให้ Performance ในการนำมาใช้มันดี เพราะเราจะเห็นว่าหลายๆ ที่ที่ใช้ LINE channel แล้วเข้าไปเป็น Delivery Platform หลายๆ คนจะทำเป็นเว็บ ดังนั้นจะมีจุดที่ใช้เวลาโหลดหน้าเว็บโดยการเปิด Browser ซึ่งมีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่รอ เราจึงตัดสินใจว่าจะไม่ให้เป็นอุปสรรคของเรา ก็เลยค้นหาข้อมูลว่ามันจะต้องทำอย่างไรนะ เลยไปได้คำตอบว่ามันต้องเป็นการ Coding ที่เรียกว่า LINE LIFF มาถึงจุดที่ว่าใครทำได้บ้าง 

เราสอนตัวเองแล้วว่า การพัฒนาระบบด้วยตนเองเป็นไปได้ยาก การพัฒนาต่อยอดมันมีข้อจำกัดค่อนข้างสูง และเราไม่มีความเข้าใจ เพราะทุกการพัฒนาคือเงินหมดเลย โดน Man day ตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงหาแพลตฟอร์มที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยที่เป็น Subscription น่าจะเหมาะกับเรามากกว่า เลยตัดสินใจว่าเลือกมี Partner เป็น Hato Hub น่าจะเหมาะสมและมีการพัฒนาแบบไม่หยุด

สิ่งที่ Hato Hub ช่วย Food Passion ใน 2 ปีที่ผ่านมา

คุณด๋อนบอกว่า คือเรื่อง Cost กับเรื่อง Data ต้องบอกว่าในเรื่อง Cost เราทำตามที่เราตั้ง Objective ไว้ ดังนั้นเรา Achieve อันที่หนึ่งแล้วเรื่อง Cost per transaction อันที่สองคือ Data ต้องบอกว่าช่วงต้น Food Passion เปิด Delivery จากทุกสาขาทั่วประเทศ 150 สาขา เพราะเราไม่มีความเข้าใจเรื่องนี้ว่า ตกลงลูกค้าอยู่ที่ไหน เราก็เลยเปิดหมดเลย การเปิดหมดข้อดีของลูกค้าคือ Available ใกล้มากเลย ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลมีทุกที่ ข้อเสียคือในเชิง Cost involve ในเชิง Operation ค่อนข้างสูง เพราะว่าต้องมี Device ต้องมี Cost ของมนุษย์ และต้องมี Cost ของ Inventory ในเรื่อง Packaging ต่างๆ ของทุกสาขา มีส่วนของการ Operating ทั้งในเรื่อง Training การรับ Feedback ลูกค้า Service recovery ต่างๆ มันสูง พูดง่ายๆ ยิ่งเยอะ ยิ่งมากความ ดังนั้นเราจึงต้อง Optimize เรื่องนี้  

มาถึงส่วนที่เราบอกว่า เรามี Hato Hub เราต้องได้ Data ปรากฏว่าเราก็ใช้ Data ของ Hato Hub นี้แหละ ในการ Optimize สาขา จนปัจจุบันเราก็ Optimize สาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งกรุงเทพฯ มีสาขาอยู่ประมาณ 95 สาขา เรา optimize สาขาลงเหลือ 52 สาขา ก็ลดไปประมาณเกือบครึ่งประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ลูกค้า Coverage เท่าเดิม ค่าส่งลูกค้าไม่ได้แพง คือยังอยู่ในเกณฑ์ที่ลูกค้ารับได้ แล้วก็เรา Optimize cost ที่พูดมาทั้งหมด ไม่ต้องใช้ Device เยอะ คือลดภาระเรื่องพวกนั้นไป เป็นการ Store network by data แล้วก็เห็น Opportunity ด้วย เราเห็นเพิ่มขึ้นด้วยว่าจุดไหนแหว่ง ตรงนี้มีลูกค้าอยู่นะ ทุกวันนี้เวลาเราจะไปเปิดสาขาใหม่ เราสามารถฟันในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้เลยว่า สาขานี้ต้องทำ Delivery หรือไม่ อันนี้เป็นสอง Objectives หลักที่หลังจากใช้ Hato Hub มาเราชอบมากจริงๆ เพราะหลักๆ เราทำการ Optimize เรื่อง Cost แล้ว ความพึงพอใจลูกค้าก็ยังดีอยู่

และสิ่งที่ชอบใน Hato Hub ก็คือมีฟีเจอร์ออกมาใหม่เรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น Address book การ Track เรื่องโปรโมชั่น เรื่องเมนูพิเศษ หรือการรับที่ร้าน เป็นฟีเจอร์ที่มีคลอดออกมาเรื่อยๆ จริงๆ คงไล่ไม่หมดเป็นร้อยเลยแหละ ในทางความเป็นจริง Payment ก็ขยายไปเรื่อยๆ น่าจะเป็น 3 ส่วนหลักๆ เลยที่ตอบ Objective ในเชิงฟีเจอร์ของ App เอง และที่ชอบอีกส่วนคือทีมงานของ Hato Hub เราชอบทีมงาน Hato Hub มากๆ หนึ่งอย่างเลยคือ Hato Hub รู้และเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วหลายๆ ครั้ง Food Passion เองมีการ Request บนความเข้าใจของเราเอง แต่ Hato Hub ไม่ได้ใช้วิธีเป็นคนรับจ้างทำของ คือถ้ารับจ้างทำของ ฟีเจอร์อะไรที่ลูกค้าบอกมาก็ทำเลย เพราะว่า Hato Hub ใช้ Expertise ของตัวเองบนความเข้าใจสิ่งนี้แนะนำกลับเพื่อพัฒนาใน Requirement นั้น ทีมงาน Hato จะถามตลอดว่าพี่ๆ เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งคุยฟีเจอร์ แต่จะบอกว่า Outcome ต้องการอะไรนะ Objective ต้องการอะไรนะ Business need ของพี่จริงๆ ต้องการอะไรนะ แล้วมันก็ Come up มาเป็นฟีเจอร์ที่บางทีก็ Shoot เราไปโน่นเลย หรือบางทีก็อาจไม่ต้องทำขนาดนั้น ซึ่งอันนี้เป็นข้อดีของทีม Hato Hub

ยอดขายเพิ่มขึ้นหลังจากใช้ Hato Hub

คุณด๋อนเล่าต่อว่า เมื่อก่อนเรามีช่องทาง Delivery แค่ LINE Man กับ Grab และมียอดขายประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันเรามียอดขายผ่านช่องทาง Delivery ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ และใน 5 เปอร์เซ็นต์ นี้มี 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นช่องทาง Hato Hato ในเชิงจำนวนเงิน

สรุปก็คือบริษัท Food Passion ก็เจอศึกหนักในช่วงวิกฤต Covid-19 ที่ผ่านมาเช่นกัน และก็ได้หันมาสนใจ Delivery มากขึ้น Food Passion ก็เจอปัญหามากมายในการทำ Own channel ไม่ว่าจะเป็นเคยทำ App เป็นของตัวเองแต่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า หรือการที่ไม่มี Data ที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้จากการใช้ Aggregator หลายๆ เจ้า แต่พอหลังจากได้ร่วมงานกับ Hato Hub ก็ได้โจทย์ให้กับ Food Passion ในส่วนของ Delivery รวมถึงการ Optimize cost structure และการใช้ Data จาก Hato เพื่อวิเคราะห์ลูกค้าและต่อยอดในการ Improve business ต่อไป

ระบบ CRM ร้านอาหาร

เลือกระบบ CRM ร้านอาหารอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ?

ระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรวบรวมข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และนำไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างแม่นยำ

Read More »

นโยบายความเป็นส่วนตัว

(Customer Privacy Notice)

บริษัท อินดี้ ดิช จำกัด (“บริษัท”) ผู้ให้บริการเช่าใช้ซอฟต์แวร์ Hato Hub (“Hato Hub”) ซึ่งให้บริการระบบจัดการร้านอาหาร ได้แก่ การให้บริการ Hato Store และ Hato Heart รวมถึงการให้บริการอื่นตามที่บริษัทอาจประกาศกำหนด (“บริการ”) รับประกันแก่ท่านว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัวและเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ (“ผู้ใช้บริการ”) ซึ่งหมายความรวมถึง บุคคลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็ปไซต์ บุคคลที่ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ และ/หรือเช่าใช้บริการ Hato Hub ดังนั้น บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีจุดประสงค์จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ เกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการให้บริการของบริษัทผ่าน Hato Hub และการให้บริการอื่น

ขอบเขตนโยบาย และการยอมรับนโยบาย

นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการโดยบริษัท ในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการ Hato Hub และบริการอื่นของบริษัทเท่านั้น โดยไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม แม้จะดำเนินการเชื่อมต่อกับการให้บริการหรือเชื่อมจาก Hato Hub ซึ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว ผู้ใช้บริการต้องศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลภายนอกดังกล่าวแยกจากนโยบายฉบับนี้

เมื่อผู้ใช้บริการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อ สื่อสาร และ/หรือตกลงเช่าใช้บริการ Hato Hub ด้วยการสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งานบน Hato Hub ทางบริษัทจะถือว่าผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับนโยบายฉบับนี้แล้ว

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย

ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและรูปแบบการติดต่อ การให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท โดยการที่ผู้ใช้บริการยังคงมีบัญชีผู้ใช้งานและยังใช้บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว บริษัทจะถือว่าผู้ใช้บริการตกลงยอมรับตามนโนบายฉบับปรับปรุงแล้วเสมอ

นิยามศัพท์ 

ภายใต้นโยบายฉบับนี้ 

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดาคนหนึ่งนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม และ 

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทมีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (ก) ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และ (ข) ตัวแทนผู้มีอำนาจลงนาม หรือบุคคลเกี่ยวข้องอื่นของผู้ใช้บริการที่เป็นนิติบุคคล (เช่น กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม หรือผู้รับมอบอำนาจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พนักงานหรือตัวแทนของผู้ใช้บริการที่อาจได้รับการแต่งตั้งมอบสิทธิในการใช้ระบบ Hato Hub ในนามของผู้ใช้บริการที่เป็นนิติบุคคลดังกล่าว เป็นต้น) (“ตัวแทน”)

ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย กรณีที่ผู้ใช้บริการนำส่งข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะตัวแทน ให้แก่บริษัท เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทางบริษัทจะถือว่า ผู้ใช้บริการได้ให้การรับประกันสิทธิในการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลของบุคคลภายนอกทั้งหมดให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลภายใต้นโยบายฉบับนี้แล้ว

แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก 3 แหล่งที่มา ดังนี้ 

  1. ได้รับโดยตรงจากผู้ใช้บริการ ซึ่งนำส่งมายังบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ (ก) การติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมี ได้แก่ โทรศัพท์ อีเมล corporate website หรือ Social Media (Line, Facebook) (ข) การเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ ด้วยระบบของบริษัทเมื่อผู้ใช้บริการเข้าชมเว็บไซต์  (ค) การที่ผู้ใช้บริการกรอก นำส่งข้อมูล รวมถึงเอกสารแบบ ฟอร์มอื่นใดเพื่อประกอบ และ/หรือเข้าทำสัญญาเพื่อใช้บริการของบริษัท (จ) การที่ผู้ใช้บริการนิติบุคคลนำส่งข้อมูลตัวแทนของตนมายังบริษัทเพื่อการใช้ Hato Hub 
  2. ได้รับจากบุคคลอื่น ซึ่งอาจรวมถึง ผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทอาจว่าจ้างเพื่อช่วยในการให้บริการของบริษัท หรือบุคคลอื่นที่อาจแนะนำและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บริษัท ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงแหล่งที่มาของข้อมูล

ข้อมูลที่มีการประมวลผล

เพื่อการให้บริการ โดยเฉพาะการให้บริการผ่าน Hato Hub บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลทั่วไปและข้อมูลการติดต่อของผู้ใช้บริการ หรือตัวแทน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ หรือ social media account (LINE, Facebook Account)
  2. ข้อมูลทางเทคนิค (Online Identifier) ของผู้ใช้บริการที่ติดต่อมายังบริษัทผ่านช่องทางเว็บไซต์ ได้แก่ ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง รวมถึง IP address และ/หรือ domain name ของผู้ใช้บริการ และหน้าเพจอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการส่งมายังเว็บไซต์ของบริษัท ประเภทและ Version ของ Browser การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone), ที่ตั้ง (location), ระบบปฏิบัติการ, Hato Hubและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์
  3. ข้อมูล cookies ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ Cookies หลายประเภท เพื่อจุดประสงค์ต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้
  • Strictly Necessary Cookies ซึ่งเป็น Cookies ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของเว็บไซต์ หรือ Hato Hub และการให้บริการแก่ผู้ใช้งานในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
  • Functionality Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์ หรือ Hato Hub เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา font และรูปแบบการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
  • Performance Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ประเมินประสิทธิ ภาพในการทำงานแต่ละส่วนของเว็บไซต์ หรือ Hato Hub ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอก ที่จะทำหน้าที่ให้บริการประเมินวิเคราะห์การทำงานของบริษัท และ
  • Advertising Cookies ซึ่งเป็น Cookies ที่ทำหน้าที่ในการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเคยเยี่ยมชม รวมถึงลักษณะการใช้เว็บไซต์ หรือ Hato Hub ของผู้ใช้บริการ เพื่อนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้ บริการ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจดำเนินการโดยบริษัทภายนอกที่จะทำหน้าที่ให้บริการให้แก่บริษัท
  1. ข้อมูลการทำสัญญา การชำระราคา และ/หรือข้อมูลสำหรับการออกใบกำกับภาษี ซึ่งรวมถึง 
  • ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดทำและลงนามในสัญญา รวมถึงสำเนาเอกสารแสดงตนของผู้ใช้บริการ หรือตัวแทน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
  • ข้อมูลการชำระเงินค่าบริการเช่าใช้ Hato Hub และข้อมูลสำหรับการชำระค่าสินค้าที่ผู้ใช้บริการจะได้รับจากผู้บริโภคที่ใช้บริการสั่งอาหารไปที่ร้านของผู้ใช้บริการโดยผ่าน Hato Hub ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลหน้าบัญชีธนาคาร รวมถึงหลักฐานการชำระเงินอื่น และอาจรวมถึงข้อมูลสำหรับการออกใบกำกับภาษี (ถ้าจำเป็น)
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของผู้ใช้บริการที่จะเป็นผู้ใช้บริการ Hato Hub ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่ต้องใช้สำหรับการลงทะเบียนผู้ใช้งาน ทั้งนี้ผู้ใช้บริการเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการกรอกและให้ข้อมูลดังกล่าวให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผล ดังนั้นผู้ใช้บริการต้องให้การรับประกันความถูกต้อง และสิทธิของตนในการนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนดังกล่าวให้แก่บริษัทเพื่อประมวลผล
  2. ข้อมูลธุรกรรมการใช้ Hato Hub ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน เลขรหัสผู้ใช้งาน ข้อมูลการ Log-in และข้อมูลการทำธุรกรรมอื่นที่ผู้ใช้บริการหรือตัวแทนที่ได้รับการลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้งานดำเนินการผ่าน Hato Hub ได้แก่ ข้อมูลการทำคำสั่งดำเนินธุรกรรมทั้งหมด และข้อมูลประวัติธุรกรรมอื่นเพื่อการตรวจสอบ
  3. ข้อมูลการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการและบริษัท ได้แก่ บันทึกข้อมูลสนทนา และการสื่อสาร ผ่านหลากหลายช่องทางการให้บริการของบริษัท เช่น โทรศัพท์ อีเมล corporate website  และช่องทาง Social Media อื่น 
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ที่ผู้ใช้บริการ และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งต่อเปิดเผยระหว่างการติดต่อสื่อสารที่ผู้ใช้บริการอาจมีกับบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงเรื่องการร้องเรียน หรือการให้ความเห็นต่าง ๆ หรือการติดต่อเพื่อรับบริการสนับสนุน ผ่าน Help Desk หรือ Customer Support หรือข้อมูลที่ผู้ใช้บริการอาจนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรม หรือ Campaign ต่าง ๆ ของบริษัท

วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และเป็นระยะเวลา ดังนี้:

    1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ เพื่อจุดประสงค์ ดังนี้ 
      • การตอบคำถาม การตอบกลับ หรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ผู้ใช้บริการอาจแจ้งมายังบริษัท รวมถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อกลับเพื่อนำเสนอบริการตามที่ผู้ใช้บริการร้องขอ Demo และการประสานงานเพื่อการเจรจาและทำสัญญาการเช่าใช้ Hato Hub
      • การจัดทำเอกสารธุรกรรมเพื่อการเช่าใช้ Hato Hub ได้แก่ เอกสารสัญญาและเอกสารทางบัญชี รวมถึงการติดต่อประสานงาน และการปฏิบัติสิทธิหน้าที่ที่บริษัทมี ภายใต้เงื่อนไขการให้บริการที่บริษัทประกาศกำหนดสำหรับการเช่าใช้ Hato Hub รวมถึงสัญญาการให้บริการอื่น ระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึง การติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ การเริ่มเปิดบัญชีผู้ใช้งาน การฝึกอบรมการใช้งาน การบำรุงรักษา และ/หรือบริการอื่น ตามที่อาจมีการตกลงกันระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ
      • การปฏิบัติตามสัญญาอื่นที่ผู้ใช้บริการและบริษัทอาจเป็นคู่สัญญากันเพิ่มเติม หรือเพื่อการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้บริการ รวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท ที่ผู้ใช้บริการอาจเข้าร่วม
    1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท 
    2. เพื่อการรักษาประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่
      • การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับผู้ใช้บริการ ซึ่งอาจรวมถึงการวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ Hato Hub และการให้บริการอื่นทั้งหมดของบริษัท การสอบถามความพึงพอใจในการให้บริการ การฝึกอบรม หรือติดตามการให้บริการของพนักงานของบริษัท 
      • การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงการทำงานของ Hato Hub การให้บริการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ รวมถึงการจัดกลุ่มของผู้ใช้บริการเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็น และอาจเก็บข้อมูลในลักษณะของสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการต่อเนื่อง
      • การใช้ข้อมูลภาพถ่ายจาการให้บริการติดตั้ง รวมถึงฝึกอบรมแก่พนักงานของผู้ใช้บริการ รวมถึงข้อมูลคำเห็นและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นที่บริษัทอาจมี 
      • การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ
    1. ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ที่ผู้ใช้บริการให้ความยินยอมเฉพาะ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของผู้ใช้บริการที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา แต่การถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการก่อนการถอนความยินยอม ทั้งนี้วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความยินยอมรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
      • การใช้ Cookies (นอกเหนือจาก Strictly Necessary Cookies) เพื่อการปรับปรุงเว็บไซต์ หรือ Hato Hub ให้เหมาะ สมกับผู้ใช้บริการต่าง ๆ ได้มากขึ้นตามลักษณะและประเภทของ Cookies ดังกล่าว 
      • การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์หรือทำการตลาดโดยตรงของบริษัท หรือการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่พันธมิตร เพื่อการทำการตลาดโดยพันธมิตร เป็นต้น 

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทจะอ้างอิงหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ดังนี้ (ก) บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะเวลาการให้เช่าใช้ Hato Hub หรือตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการยังมีบัญชีผู้ใช้งานใน Hato Hub และตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติคุ้มครองสิทธิของบริษัท ภายใต้อายุความสูงสุด 10 ปี (ข) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว และ (ค) ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทรับประกันไม่ดำเนินการที่จะกระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกินสมควร 

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ 

    1. ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึง (i) ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท ในการปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิที่บริษัทอาจมีต่อผู้ใช้บริการ เช่น ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการระบบการชำระเงิน เป็นต้น และ (ii) ผู้ให้บริการที่ปรึกษาของบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว 

ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้แก่ผู้ให้บริการที่ดำเนินกิจการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ให้มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

    1. หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น โดยบริษัทจะเปิดเผยส่งต่อข้อมูลเฉพาะเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น
    2. บุคคลอื่น ซึ่งผู้ใช้บริการให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลดังกล่าวได้ 

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ 

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของผู้ใช้บริการให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมภายใต้กรอบกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัท อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น 

ช่องทางการติดต่อ

บริษัทยินดีรับคำถาม ข้อร้องเรียน ความเห็นและคำขอใดๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ โดยเฉพาะการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถติดต่อบริษัทได้ที่: เบอร์โทรศัพท์: 02-114-3234 E-mail: privacy@hatohub.com

Close Bitnami banner
Bitnami